OSHC คืออะไร ทำไมจึงสำคัญกับวีซ่านักเรียน เป็นประกันที่ครอบคลุมอะไรบ้าง?
OSHC คืออะไร?
OSHC (Overseas Student Health Cover – OSHC) คือประกันสุขภาพสำหรับนักเรียนต่างชาติที่ศึกษาในออสเตรเลีย ประกันสุขภาพชนิดนี้ถูกนำมาใช้เพื่อให้แน่ใจว่า นักศึกษาต่างชาติจะได้รับการรักษาและเข้าถึงบริการด้านสุขพาพที่เหมาะสม โดยปราศจากปัญหาด้านการเงินเกินกว่าที่ควร เมื่อเจ็บป่วยในขณะที่ศึกษาอยู่ที่ออสเตรเลีย โดย ปรกติแล้ว OSHC จะให้ความคุ้มครองในค่าใช้จ่ายดังต่อไปนี้:
- การรักษาพยาบาลในโรงพยาบาล
- การรักษาพยาบาลนอกโรงพยาบาล
- ยาตามใบสั่งแพทย์
- ความช่วยเหลือฉุกเฉินด้วยรถพยาบาล
*สิทธิ์และการเคลมประกันเป็นไปตามประเภทของประกันที่สมัครและเงื่อนไขที่กำหนด
ทำไมต้องมีประกันสุขภาพ?
ทางรัฐบาลออสเตรเลีย ได้กำหนดไว้ว่า ผู้ถือ student visa ทุกราย ต้องมีประกันสุขาภาพแบบ OSHC และประกันนี้จะต้องครอบคลุมตลอดระยะเวลาของวีซ่า
บริษัทประกันในประเทศออสเตรเลีย
OSHC ที่ได้รับการรับรองจากรัฐบาลมีอยู่เพียง 6 แห่ง ได้แก่
ประกัน OSHC ครอบคลุมอะไรบ้าง
โดยปกติแล้ว OSHC จะครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ในโรงพยาบาล ที่จำเป็นไว้หลายอย่าง แล้วแต่รูปแบบประกัน (Premium) ที่เราเลือกด้วย โดยน้องๆ สามารถซื้อประกันเสริม (Extras Cover) ได้ ในกรณีที่ต้องการการคุ้มคลองในกรณีพิเศษ เช่นค่าทำฟัน จิตแพทย์ และกายภาพบำบัด โดยสิ่งที่น้องๆ ต้องคำนึงถึงก่อนเลือก Premium และ Extras Cover คือ ระยะเวลาการรอคอย (Waiting Period) ที่จะกำหนดว่า ในบางการรักษา ผู้ถือประกันต้องรอนานเท่าไหร่ถึงจะเริ่ม เคลมประกันสำหรับการรักษานั้นๆ ได้
หากป่วยในออสเตรเลีย ควรทำอย่างไรดี
- ในกรณีที่อาการร้ายแรง ฉุกเฉิน และอยู่นอกเวลาทำการ น้องๆ ควรรีบไปที่แผนกฉุกเฉินของโรงพยาบาบที่ใกล้ที่สุด หรือกดโทรหมายเลข 000 เพื่อขอความช่วยเหลือแบบฉุกเฉิน
- หากอาการไม่รุนแรงมากทำการนัดหมายกับ GP (General Practitioner) GP คือแพทย์คลินิครักษาโรคทั่วไป โดยปกติแล้วน้องๆจะไม่สามารถไปพบแพทย์ในโรงพยาบาล หรือแพทย์เฉพาะทางบางโรคได้โดยตรง (ยกเว้นกรณีฉุกเฉิน) หากมีอาการป่วยจะต้องนัดพบเพื่อตรวจกับ GP ก่อน แล้ว GP จะเป็นคนส่งเรื่องต่อว่าเราจะต้องทำอะไรบ้าง เช่น การตรวจเลือดหรือวัดค่าต่างๆ เพิ่ม หรือส่งตัวเราไปพบแพทย์ฉพาะทาง
- รับใบสั่งยา หลังจากพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยโรคแล้ว แพทย์อาจจะให้ใบสั่งยากับน้องๆมา โดยน้องๆจะต้องนำใบสั่งยานี้ไปซื้อยาที่ร้านขายยาด้วยตนเอง
- ขอเบิกเงินค่าคุ้มครองจากประกัน
การขอเบิกเงินค่าคุ้มครองจะมีอยู่ 2 ประเภท
- เบิกค่าคุ้มครอง ณ ที่จ่าย
หากคลินิคที่ให้การรักษาเป็น Partner กับบริษัทประกันของเรา น้องๆจะสามารถเคลมเงินได้ ณ ที่จ่ายเลย ในการณีนี้น้งๆ จะจ่ายค่าใช้จ่ายที่เป็นส่วนต่างหลังจากการเคลมเท่านั้น ในกรณีที่รับการรักษาพยาบาลแบบฉุกเฉิน ทางโรงพยาบาลจะแนะนำวิธีการจ่ายเงิน หรือเคลมประกันกับน้องๆ หรือน้องๆ สามารถในใบเสร็จการจ่ายค่าพยาบาลไปสอบถามกับบริษัทประกันได้
2. เบิกค่าคุ้มครองย้อนหลัง
ในกรณีที่น้องๆ ไปรับการรักษากับคลินิค ที่ไม่ได้เป็น Partner กับบริษัทประกัน น้องๆ ยังสามารถเคลมเงินได้ปกติ แตกต่างกันตรงที่น้องๆ จะต้องสำรองจ่ายเองก่อน แล้วนำใบเสร็จมาเคลมกับบริษัทประกันในภายหลัง
ขั้นตอนการเคลมค่ารักษากับบริษัท Bupa
- สมัคร Account ของบริษัท Bupa (ผ่านทางเว็ปไซท์ หรือแอปริเคชั่น My Bupa)
- เลือกที่ Make a Claim
- ถ่ายรูปหน้าใบเสร็จที่จะทำการเบิกเงิน
- กรอกรายละเอียดการเคลม โดยดูรายละเอียดได้จากใบเสร็จค่ารักษา
ตัวอย่างใบเสร็จค่ารักษา
ขั้นตอนการกรอกข้อมูลก็ง่ายๆมากมีดังนี้
- กรอก Provider Number โดยสามารถหาได้ในใบเสร็จ หลังจากนั้นระบบจะขึ้นชื่อหมอมาให้ ให้เราเลือกชื่อคุณหมอที่เราไปหา
- จากนั้นกด next และเลือกชื่อนามสกุลเราเป็นผู้ขอเบิกเงิน และให้ระบุวันที่เราไปหาหมอตามที่ใบเสร็จระบุไว้
- กรอกเลข MBS Item เลขนี้สามารถหาได้ในใบเสร็จ อยู่ในช่อง Item พร้อมกับใส่ราคาที่เราจ่ายไปใน Item นั้น โดยปกติแล้วในหนึ่งใบเสร็จ สามารถมีได้หลาย Item ให้เรากรอกทุก Item ลงไป โดยการคลิ๊กเลือก Add Item
- จากนั้นจะมีคำถามว่า Were you trated as an inpatient in hospital? หากเรามีการแอดมิดในโรงพยาบาลให้ตอบ Yes หากไม่ได้มีการแอดมิดในโรงพยาบาลให้ตอบ No
- คำถามข้อต่อไปคือ การเบิกเงินประกันครั้งนี้ คืออุบัติเหตุที่เกิดจากบุคคลอื่นหรือไม่ Is this claim for an injury/accident that is a result of third party damages or as a result of another person’s negligent acts or omissions? หากไม่ใช่ให้ตอบ No หากใช่ให้ตอบ Yes
- หลังจากนั้นก็แบบรูปใบเสร็จ และใส่ข้อมูล Bank Account ของเรา พร้อมกับเช็ครายละเอียด และกด Submit ได้เลยค่ะ เงินประกันจะเข้าบัญชีที่เราระบุไว้ภายใน 2-3 วันทำการค่ะ
แค่นี้วิธีการขอเบิกเงินค่ารักษาก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป พี่ๆหวังว่าบทความนี้จะสามารถช่วยลดความสงสัยและความกังวลของน้องๆได้ไม่มากก็น้อยนะคะ
หากพี่ๆ SOL มีบทความดีๆอะไรจะคอยๆมาอัพเดทน้องๆทุกคนนะคะ หรือหากน้องๆคนไหนสนใจเรียนต่อ หรือมีคำถามที่อยากถามเกี่ยวกับการศึกษาในประเทศออสเตรเลีย สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Line : @soledu.thailand นะคะ
แล้วพบกันในบทความต่อไปค่ะ