แชร์ประสบการณ์ ตัวอยู่ไทยใจอยู่ออสฯ เรียนออนไลน์ Master of Information Technology ที่ Griffith University

 

สวัสดีครับ ผมแพทนะครับ ตอนนี้เรียน Master of Information Technology ที่มหาวิทยาลัย Griffith University ครับ ก่อนรีวิวขอเล่าคร่าว ๆ ก่อนเพราะว่าประวัติความเป็นมาตกกะไดพลอยโจรเรียนออนไลน์ที่ไทยเกิดขึ้นได้ยังไง

 

จริง ๆ ผมอยู่ที่ออสเตรเลียมาก่อนครับโดยเรียนเป็นหลักสูตร Diploma ที่บริสเบน แต่ช่วงต้นปี 2020 ผมได้เดินทางกลับมาเยี่ยมครอบครัวที่ไทยโดยที่ไม่ได้คาดคิดว่าจะเกิดการระบาดโควิดเกิดขึ้น ระหว่างนั้นเรามีแผนอยากจะเรียนต่อปริญญาโทจริงจังอยู่แล้ว ก็เลยตัดสินใจคุยกับน้องเฟมที่เป็นเจ้าหน้าที่ SOL Edu อีกครั้ง วีซ่าของผมค่อนข้างซับซ้อนเนื่องจากตอนนั้น ตัวผมติดอยู่ที่ไทย แล้วภรรยาผมติดอยู่ที่ออสเตรเลีย

 

เนื่องจากการที่ภรรยาผมยังอยู่ออสเตรเลียดังนั้นผมจึงตัดสินใจที่จะเรียนออนไลน์ไปเลยตั้งแต่ตอนที่ตัวอยู่ไทย เพราะไม่อยากเสียเวลารอ หรือต้องให้ภรรยาผมนั่งเครื่องบินกลับมาพร้อมกับความเสี่ยงช่วงโควิด นอกจากนี้ก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากน้องเฟมว่า สำหรับนักเรียนที่เรียนออนไลน์จะได้สิทธิประโยชน์ไม่ต่างกับนักเรียนที่อยู่ออสเตรเลียสำหรับวีซ่า 485 (Post Study Work visa)

 

Post-Study Work Visa (subclass 485)

วีซ่าที่รัฐบาลออสเตรเลียจะออกให้กับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี/โท หลักสูตรสองปีขึ้นไป เปิดโอกาสให้นักเรียนต่างชาติ หางาน สะสมประสบการณ์ได้สูงสุดถึง 2 ปี ซึ่งเอาจริง ๆ วีซ่าตัวนี้ปกติคนเรียนออนไลน์ไม่สามารถยื่นได้ แต่ด้วยจากช่วงโควิดทาง immigration อนุโลมให้สามารถยื่นได้ครับ หากลงเรียนในระยะเวลา 2 ปี และเรียนออนไลน์ในช่วงที่ไม่สามารถบินเข้ามาได้ นี้เป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่มองว่าถ้างั้นก็ไม่ควรเสียเวลาจนกว่าประเทศจะเปิดให้เดินทางเข้า

 

การเรียนออนไลน์ ก็มีทั้งข้อดีข้อเสียแตกต่างกันนะครับ

ข้อเสีย แน่นอนแหละว่าทุกคน ๆ ที่อยากมาเรียนต่างประเทศรวมถึงตัวผมก็คาดหวังอยากจะเจอเพื่อนต่างชาติ ได้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับนักศึกษา เช่นห้องสมุด ก็ต้องมาเรียนอยู่ในห้องนอนที่บ้าน เพราะสถานการณ์ที่ไทยไม่สามารถออกไปใช้ชีวิตข้างนอกตามปกติได้

สำหรับข้อดี ตรงนี้ผมมองเห็นได้ชัดเจนมากเพราะว่าเคยอยู่ที่ออสเตรเลียมาก่อนนั้นก็คือ ค่าใช้จ่ายชีวิตประจำวัน ระหว่างที่เรียนอยู่ทีออสเตรเลีย เราอาจจะต้องเสียค่าเดินทาง กิน ค่าเช่าที่พักต่อสัปดาห์อาจจะตกเฉลี่ยสัปดาห์ละ 6,000 บาท ซึ่งตรงนี้ระยะเวลา 6 เดือน ถึง 1 ปีในการเรียนออนไลน์ผมมองว่าสามารถประหยัดไปได้เกือบๆ 500,000 บาท

นอกจากนั้นการเรียนออนไลน์ หลังจากจบคลาสทุก ๆ ครั้งเราจะสามารถดูลิงก์ย้อนได้ทั้ง Lectures และ Tutorial class ซึ่งแตกต่างจาก การเรียน offline ที่ Tutorial class จะไม่มีอัดไว้ ซึ่งปกติคลาสนี้เป็นคลาสที่ส่วนใหญ่อาจารย์จะอธิบายการทำรายงาน หรือการเตรียมตัวทำข้อสอบต่าง ๆ

 

ระบบการเรียน

ผมว่าแต่ละมหาวิทยาลัยจะมีระบบแตกต่างกันออกไป ของ Griffith University ใช้ Microsoft Teams แยกแต่ละวิชาเพื่อติดต่อนักเรียน คล้าย ๆ กับกรุ๊ปไลน์ มุมมองของผมว่ามันค่อนข้างโอเคเลย เพราะว่าเลือกได้จะคุยแบบ public หรือ private โดยไม่ต้องขอคอนแทคส่วนตัวจากนักเรียน แล้วก็จะเป็นกรุ๊ปเฉพาะนักเรียนในคลาสเดียวกันเท่านั้น ส่วนตอนสอนจะเป็นการเรียนผ่านระบบ Collaborate Ultra อันนี้ก็คือเหมือนที่บอกจะมีเรคคอร์ดไว้ด้วยหลังจากจบการสอนทุกครั้ง ระบบนี้จะคล้าย ๆ Zoom ที่หลายคนรู้จัก

 

หลัก ๆ ถามว่าความยากของการเรียนออนไลน์คืออะไร อาจจะเป็นช่วงเวลาที่ต่างกัน แต่ว่าเราสามารถบอกรายละเอียดกับทางอาจารย์หรือเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยเพื่อขอความช่วยเหลือเพิ่มเติม เช่น ผมที่มีงานกลุ่มแต่เนื่องจากเวลาที่ต่างกันระหว่างไทยกับออส ทางอาจารย์ก็เลยอนุญาติให้เป็นทำเดี่ยวเป็นพิเศษ

 

อยากจะฝากถึงหลาย ๆ คนที่กำลังวางแผนอยากมาเรียนมหาวิทยาลัยแล้วลังเลอยู่ หรือกำลังรอบอร์ดเดอร์เปิด การเรียนออนไลน์ไม่ได้แย่อย่างที่คิดนะครับผมว่ามันช่วยประหยัดเวลา และค่าใช้จ่ายไปเยอะมากกว่าการที่เรานั่งรอเวลาให้ประเทศเปิด บวกกับว่ายังสามารถยื่นวีซ่าหลังเรียนจบได้ตามปกติด้วย

 

ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่มีแผนจะมาเรียนต่อนนะครับ

หากเพื่อน ๆ คนไหน ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมสามารถติดต่อพี่ ๆ SOLEdu ได้เลยนะคะ 🙂