ไม่มีคำว่าสูง วัดได้ถ้าใจถึง กระโดดล่มออกจากเครื่องบินที่ความสูง 14,000ft ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ประเทศออสเตรเลีย
วันนี้เราจะพาไปวัดใจกับความสูงกันว่าเวลาตอนอยู่ที่สูงเนี่ยจะรู้สึกยังไง ส่วนวิธีวัดใจของเรานั้น ถ้าแค่ขึ้นไปยืนชมวิว ชมท้องฟ้าบนตึก163ชั้น ก็ดูจะธรรมด๊าธรรมดาเกินไป (แก่แล้วไง อยากลองอยากทำอะไรต้องรีบลองรีบทำ เจ้ต้องไปให้สุด) และด้วยความผาดโผนมากมายที่มีอยู่ในกระแสเลือด ความมาอยู่ไกลถึงออสเตรเลีย ความอยากลองทำอะไรที่ตื่นเต้นท้าทาย จึงเป็นที่มาของ “14,000ft Skydiving in Australia” ในครั้งนี้
ความอยากทั้งหมดที่มีผลักเราเดินตรงไปที่ Travel Agent ใกล้บ้าน และบอกความต้องการว่า “ยูวววว์ ฉันอยากกระโดดร่ม” เท่านั้นแหละ โบชัวร์และข้อมูลมากมายก็มาให้เลือกตรงหน้า สถานที่กระโดด ความสูงในระดับต่างๆ แพ็คเกจรูปภาพและวีดิโอ และราคา เลือกค่ะซิส!! เราตัดสินใจไปที่ Byron Bay กระโดดที่ความสูง14,000ฟุต พร้อมแพ็คเกจภาพและวีดิโอ (แนะนำว่าเทียบราคาแต่ละเอเจ้นท์ดูหน่อยก็ดีค่ะ ตอนนั้นด้วยความอยากกระโดดมาก เลยไม่ได้สนใจว่าเจ้าไหนถูกแพง สุดท้ายมาเจอเพื่อนคนไต้หวันบอกว่า นางไปกับเอเจ้นท์คนจีน ประเด็นคือ ไปที่เดียวกันกระโดดเหมือนกัน แต่ราคาถูกกว่าเราเกือบ30% ร้องไห้แพ๊พพ)
ทำไมเลือกแพ็คเกจนี้? (นี่เป็นความเห็นส่วนตัวเท่านั้น!)
- เดินทางสะดวก เพราะมีบริการรับส่งจาก Brisbane ไป Byron Bay รวมอยู่ในแพ็คเกจแล้ว
- ต้องสูงสุดดิ ณ ตอนที่เราไปกระโดด ความสูง14,000ฟุต คือสูงที่สุดแล้ว และมีระยะเวลาตกอย่างอิสระประมาณ60วินาที เราว่าเพียงพอสำหรับเราที่จะรับรู้ความรู้สึกต่างๆ (บอกละไงเจ้ต้องไปให้สุด ตอนนี้เห็นมีสูงขึ้นอีกนาจาาา เดี๋ยวไปกระโดดใหม่ 5555)
- ต้องมีรูปมีวีดิโอเก็บไว้ให้ครบสิ เก็บความรู้สึกด้วยตัวเอง เราก็จำได้จนถึงทุกวันนี้นะว่าตอนนั้นรู้สึกยังไง แต่ถ้ามีอะไรช่วยบันทึกไว้ด้วยก็จะดีมากอ่ะ ดูทีไรก็ยิ้มตลอด และสามารถแบ่งปันประสบการณ์นี้ต่อครอบครัว เพื่อน และคนอื่นๆได้ด้วย (ไม่อนุญาตให้นำกล้องส่วนตัวขึ้นไปนะจ๊ะ ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัย และจะขายแพ็ตเกจ อันหลังนี่คิดเอง 55555)
เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เราไปกันเลย… ออกเดินทางจาก Brisbane แต่เช้า เพราะจะได้ไม่สายเกินไปสำหรับกิจกรรมของเรา เดินทางไปได้เกินครึ่งทาง(ใช้เวลาประมาณ2ชม.) คนขับบอกว่า “ขอโทษจริงๆนะทุกคน วันนี้เราทำกิจกรรมกันไม่ได้แล้ว เพราะลมแรงเกินไป เดี๋ยวผมจะวนกลับไปส่งทุกคนนะ” หึ หึ หึหึหึ หมดกันความตื่นเต้นในวันนี้ของฉ้านนน แต่เรื่องความปลอดภัยต้องมาก่อนค่ะ ลมแรงมากไปก็อันตรายเกินกว่าที่จะเอาชีวิตไปเสี่ยง (ไม่ใช่ว่าจองแล้วจะได้โดดวันนั้น100%นะจ๊ะ ทำใจเผื่อไว้ด้วย) โอเคกลับก็กลับ เรากับเพื่อนๆเลยขอคนขับลงที่ Gold Coast แล้วเดี๋ยวกลับบ้านเอง (ไม่ได้ไปสัมผัสท้องฟ้า ไปนอนชิวริมทะเลก็ยังดี)
แล้ววันที่เราได้กระโดดก็มาถึงงงง (ไหว้พระขอพรดิบดี ขอให้รอบนี่ลูกช้างไม่ต้องกินแห้วเถอะ ส้าาาาาธุ) ลืมตามาก็ถึง Byron Bay Drop Zone ไม่ได้มีประตูวิเศษนะ หลับตลอดทางแค่นั้นเอง ถึงแล้วก็ไม่พูดพร่ำทำเพลง ทุกคนต้องกรอกและเซ็นเอกสารต่างๆทั้ง Online form และ Paper work ให้ข้อมูลส่วนตัว ข้อมูลด้านสุขภาพ และความยินยอมในการทำกิจกรรม (ยืนยันนั่นแหละ ว่าหนูอยากโดดเอง พี่เขาไม่ได้บังคับ ถ้าหนูเป็นอะไรไป ก็หนูนี่แหละรนหาที่เอง) เสร็จแล้วก็ฟังอบรมเรื่องความปลอดภัยสั้นๆก่อนทำกิจกรรม ว่าต้องทำท่าแบบไหน ตอนไหน เพราะอะไร สัญญาณมือแบบนี้ๆแปลว่าอะไร หูอื้อต้องแก้ยังไง ทั้งหมดทั้งมวลก็เพื่อความปลอดภัยของเราเอง (ตั้งใจฟังกันให้ดีด้วยนาจา) อะไรประมาณนั้น หลังจากนั้นข้าวของส่วนตัวทุกอย่างจะถูกเก็บไว้ในที่ที่เขาเตรียมให้ กระเป๋าตังค์ โทรศัพท์ โดนริบหมดจ้า มันเกิดขึ้นไวแบบไม่ได้ตั้งตัว ยังไม่ทันได้โทรสั่งเสียที่บ้านเลยอ่ะ ต่อมาก็เปลี่ยนชุดเพื่อเตรียมพร้อม มีกางเกงขายาวให้สวมทับ ใส่แว่นกันลม และเข็มขัดที่ใช้ล็อคระหว่างตัวเรากับมาสเตอร์* (เรียกว่าเข็มขัดหรือเปล่าไม่แน่ใจ แต่ลักษณะมันประมาณนั้นอ่ะ, *Tandem Master คือคนที่จะกระโดดลงมาพร้อมกับเรา เป็นคนควบคุมร่มพาเราลงมา) ผู้หญิงผมยาวก็ต้องมัดรวบให้เรียบร้อยด้วยจ้า เสร็จสรรพ์ทุกอย่างก็รอเขาเรียกชื่อ แล้วมาสเตอร์จะเดินมาหาพร้อมเซลฟี่วีดิโอก็ว่ากันไป และเดินพาไปขึ้นเครื่องบินเล็กที่จะพาเราขึ้นฟ้าไป Skydive กันนนนน
ความรู้สึกตอนนั่งเครื่องบินเล็ก อารมณ์มันเหมือนแบบใช้บริการพี่วินหน้าปากซอยบ้านขี่ขึ้นฟ้าอ่ะ ทุกอย่างเกิดขึ้นรอบตัวซึ่งใกล้มาก หมายถึงแบบเรารับรู้หมด ทั้งเสียง ลม ความเร็ว และบรรยากาศรอบๆ คือมันเรียลอ่ะ (เอาเป็นว่าความรู้สึกไม่เหมือนนั่งเครื่องบินเครื่องบินพาณิชย์ข้ามประเทศละกัน) ตอนนั้นเริ่มหวั่นไหวใจว่าพี่นักบินจะไต่ถึง14,000ฟุต จริงไหมนะ(แต่ไม่เป็นไร ร่วงไปฉันก็ยังไม่ร่มอยู่ 5555)
พอเครื่องไต่ได้ระดับแล้ว คนที่อยู่ท้ายเครื่องที่สุดก็เริ่มกระโดด เราจากที่ไม่เคยกลัว อยากโดดอยากโดด ความรู้สึกกลัวมันเริ่มมาตอนนี้แหละ สำหรับเราตอนเห็นคนอื่นโดดมันเสียวกว่าโดดเองอีกอ่ะ (ขออนุญาตใช้คำอุทานบางคำเพื่ออรรถรส) บับบบเชี่ยยยยยยย โดดปุ๊บหาย โดดปุ๊บหาย ไปไวมาก เริ่มคิดในใจว่าร่มเราจะกางไหม เราจะทำท่าที่ฝึกมาถูกไหม จะปลอดภัยไหม แต่คิดได้ไม่นานก็ถึงตาเราโดด เอิบบบบ เดี๋ยวโจ!!! ฉันยังไม่พร้อม (แค่พูดในใจอ่ะ //เอ่อ มาสเตอร์เราชื่อ “Joe” นะ) โจถามว่าพร้อมไหม เราก็ตอบพร้อม นั่งหย่อนขาตั้งท่าที่ประตูแล้วก็ทิ้งตัวเลย หัวใจวูบไป1.38953วินาที (ไม่ได้ใบ้หวยเด้อ) มันวูบแปปเดียว ที่เหลือคือความฟินล้วนๆ ถึงจะโดนลมแรงตีหน้าจนยับเยิน ปาก,คอ แห้งเย็นไปหมด แต่เป็น60วินาที free fall ที่ฟินสุดๆ สู่ความเวิ้งว้างอันไกลโพ้นนนนน เห็นวิวกว๊างกว้าง ไกลสุดตา ทะเลข้างล่างที่เคยเห็นคลื่นแรงๆสูงๆตอนยืนอยู่ที่ชายหาด กลายเป็นดูนิ่งสนิทไม่มีคลื่นเลย เหมือนเราเป็นนกแต่ไม่มีปีก บินไม่ได้ แล้วก็เข้าใกล้จะโม่งพื้นโลกเข้าไปทุกที แล้วร่มกถูกกาง พรึ่บบบ โจก็แตะไหล่ส่งสัญาณว่ากางแขน ทำตัวตามสบายได้ นางถามว่าเป็นไงบ้างสนุกไหม เราบอกสนุกมาก ชอบบบ นางก็บังคับร่มให้หมุนวนติ้ววววอยู่พักนึง แล้วก็บังคับพาชมวิวต่ออีกหน่อย ไม่นานก็พาลงอย่างปลอดภัย เราคุยกับโจอีกไม่นานก็แยกย้ายกันไป
เป็นประสบการณ์ที่สุดยอด หาคำบรรยายไม่ได้ และคุ้มค่ามากกกอย่างนึง ที่ควรต้องทำลองซักครั้งในชีวิต ความสวยงามและทุกความรู้สึกในวันนั้นยังคงอยู่กับเราเสมอ แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นปีหรืออีกกี่ปีก็ตาม แต่เราไม่มีวันลืมได้เลย ต้องขอบคุณการตัดสินใจและความกล้าของตัวเองในวันนั้น ที่ทำให้เราได้สัมผัสกับ SKYDIVING และได้นำประสบการณ์ดีๆมาเล่าให้เพื่อนๆiaeฟัง
และแน่นอนค่ะว่าทุกอย่างล้วนมีความเสี่ยง เพื่อนๆคนไหนที่อยากลอง SKYDIVING ก็ขอให้ประเมินและเตรียมความพร้อมด้านร่างกายและจิตใจให้ดีนะคะ สำหรับวันนี้ขอตัวลาไปก่อน บ๊ายยยบายจ้า
NATHABHORN M.